
ตอนที่แล้วพูดถึงว่าอะไรคือสาเหตุที่ทำให้อยู่ ๆ รถก็ติดแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ตอนนี้มาดูกันว่า มีวิธีไหนบ้างเพื่อลดเหตุการณ์นี้ มาดูการทดลองกันอีกครั้ง
การทดลองนี้ให้รถวิ่งตามกันเป็นวงเช่นเดิม วิ่ง ๆ ไปแล้วให้รถคันแรกหยุดนิ่งเป็นเวลา 5 วินาที (สังเกตสี่เหลี่ยมสีแดงในรูป)
ภาพจากวีดีโอ
เมื่อคันแรกหยุด คันต่อ ๆ มาก็หยุดตาม เพียง 5 วินาที รถติดไปถึงคันที่ 5 ในขณะที่คันแรกเริ่มออกตัววิ่งต่อ
รถติดนั้นเป็นลูกโซ่ไปยังคันหลัง ๆ คันที่ 1 ถึง 5 วิ่งต่อไปได้แล้ว แต่คันที่ 6, 7, 8 กำลังเผชิญรถติดอยู่
ในที่สุดคลื่นรถติดก็ไปถึงคันหลังสุด ทั้ง ๆ ที่คันแรกตัวการรถติดนั้นวิ่งห่างออกไปแล้ว
ทำยังไงดีไม่ให้รถติดแบบนี้?
คำตอบก็คือ เว้นระยะห่างจากรถคันหน้าให้เพียงพอ
มาดูการทดลองกันต่อ ด้านบนคือกรณีที่รถทุกคันวิ่งติด ๆ กัน ด้านล่างคือกรณีที่รถคันที่ 6 เว้นระยะจากคันที่ 5
เริ่มการทดลอง รถคันแรกหยุดนิ่งเป็นเวลา 5 วินาที สังเกตว่ารถคันสุดท้ายอยู่ในตำแหน่งเดียวกัน(วงกลมสีน้ำเงิน)
ด้านบนรถคันที่ 6 วิ่งมาถึงคันที่ 5 และต้องหยุด ในขณะที่ด้านล่าง ยังคงมีช่องว่างระหว่างรถคันที่ 6 และ 5
เวลาผ่านไป รถคันสุดท้ายติดอยู่ในคลื่นรถติด ในขณะที่ด้านล่าง รถคันสุดท้ายเพียงแค่ชะลอแต่ไม่ถึงกับหยุด วิ่งนำหน้าด้านบนไปแล้ว
เมื่อทุกคันหลุดจากคลื่นรถติด รถคันสุดท้ายในการทดลองด้านล่างนั้นไปได้เร็วกว่าการทดลองด้านบน
จากการทดลองจะเห็นได้ว่า เงื่อนไขสำคัญที่ทำให้ไม่เกิดรถติดก็คือการไม่หยุดตามคันข้างหน้า ซึ่งจะไม่หยุดได้ก็ต่อเมื่อเว้นระยะมากพอที่ให้รถผ่านไปได้เพียงแค่ชะลอตัวแต่ไม่ถึงกับหยุด
บนทางด่วนญี่ปุ่น มีการทดลองเช่นเดียวกัน และแนะนำให้เว้นระยะห่างจากคันหน้า 40 เมตร
ถามว่าแล้วจะไม่โดนรถเลนข้าง ๆ เปลี่ยนเลนมา เพราะเห็นเลนเราโล่งเหรอ? คำตอบก็คือ โดนแน่นอน ตราบใดที่รถยังอาศัย”คน”ขับอยู่ เพราะแต่ละคนก็มีการตัดสินใจที่ไม่เหมือนกัน
แล้วถ้าโดนแซงจะทำยังไงดี คำตอบก็เหมือนเดิมคือ ชะลอรถเราลงไปอีกเพื่อเว้นระยะ 40 เมตรเท่าเดิม
แนวคิดให้ขับรถช้าลงนี้ มีการนำไปใช้จริง เช่น การจำกัดความเร็วให้ต่ำลงบนทางด่วนเมื่อปริมาณรถเริ่มมาก วีดีโอด้านล่าง (นาทีที่ 3:50) เล่าว่าการจำกัดความเร็วต่ำลง ช่วยให้กระแสจราจรเคลื่อนที่ได้ต่อเนื่องขึ้น
ภาพจากวีดีโอ
แนวคิดการเว้นระยะจากรถคันหน้า ยังช่วยให้ทั้งระบบไปได้เร็วขึ้นเวลาร่วมทางกัน ดูภาพเคลื่อนไหวด้านล่างก็จะเห็นได้ว่าถ้าทุกคันพยายามขับจี้ติด ๆ คันหน้า ภาพรวมแล้วทุกคันจะไปได้ช้ากว่ากรณีที่ทุกคันเว้นระยะห่างจากคันหน้าแล้วสลับกันไปโดยไม่ต้องชะลอความเร็วมาก
ภาพจาก http://trafficwaves.org/seatraf.html
แน่นอนว่าในความเป็นจริง “คน”ขับรถทุกคันไม่ได้คิดเหมือนกัน การแก้ปัญหา phantom traffic jam จึงเป็นความท้าทายของวิศวกรจราจรและนักออกแบบถนนต่อไป
แหล่งที่มา:
Leave a Reply