ตำแหน่งป้ายรถเมล์กับสี่แยก

ป้ายรถเมล์อยู่ตรงไหนของสี่แยก เรื่องที่ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กแต่แท้จริงแล้วมีเหตุผลเบื้องหลังตำแหน่งป้ายรถเมล์แต่ละแบบ

ก่อนอื่นมาทำความเข้าใจการเข้าป้ายของรถเมล์ 2 แบบ

1. จุดจอดบนถนน (in-lane stop)

ป้ายรถเมล์แบบจุดจอดบนถนน

คือจุดจอดที่อยู่บนเลนที่รถเมล์วิ่ง จุดจอดบนถนนมีข้อดีทำให้รถเมล์ไม่ต้องเสียเวลา 2 ต่อ คือ
๑. ไม่เสียเวลาเข้าซ้ายเพื่อหยุดที่ป้าย
๒. ไม่เสียเวลาขอออกขวาเพื่อกลับสู่เส้นทาง

หลายคนมักคิดว่าจุดจอดบนถนนทำให้รถที่ตามหลังเสียเวลาต้องหยุดรอคนขึ้นลงรถเมล์ แต่มองอีกมุม จุดจอดแบบนี้ให้ความสำคัญกับ“ผู้โดยสารที่ยังอยู่บนรถเมล์”ไปถึงป้ายถัดไปได้เร็วขึ้น

2. จุดจอดเว้า (pull-out stop)

จุดจอดรถเมล์แบบเว้า

คือจุดจอดที่ไม่กีดขวางกระแสจราจร รถเมล์ต้องเลี้ยวเบนจากเลนที่วิ่งอยู่เข้าซ้ายเพื่อจอดป้าย เมื่อรับส่งผู้โดยสารเสร็จแล้วต้องขอทางออกขวากลับเข้าสู่เลนรถวิ่ง

เมื่อเรารู้จักลักษณะทางกายภาพของจุดจอดแล้ว มาดูกันว่าเมื่อเอาจุดจอดเหล่านี้ไปวางที่ตำแหน่งต่าง ๆ ของสี่แยก
มีข้อดีหรือข้อควรระวังอะไรบ้าง

1. ป้ายรถเมล์ที่ตำแหน่งเลยแยก จุดจอดบนถนน (far-side, in-lane stop)

ป้ายรถเมล์แบบนี้ออกแบบเพื่อให้ความสำคัญสูงสุดกับรถประจำทาง รถเมล์วิ่งเป็นเส้นตรงไม่ต้องเลี้ยวเพื่อเข้าป้าย และกลับเข้าสู่เส้นทางวิ่งได้ทันที ไม่ต้องรอให้รถข้างหลังให้ทางเพื่อออกขวา

ป้ายรถเมล์ตำแหน่งเลยแยก จุดจอดบนถนน

ข้อดี

  • รถเมล์ได้วิ่งผ่านสี่แยกก่อนหยุดที่ป้าย และเมื่อหยุดรับส่งผู้โดยสารเสร็จสามารถวิ่งต่อไปรอไฟเขียวแยกถัดไปได้ทันที
    สังเกตแนวคิดนี้ให้ดี ๆ แนวคิดนี้ไม่ได้คิดว่ารถเมล์จอดป้ายทำให้รถติด จึงควรวางป้ายรถเมล์ก่อนแยกเพื่อให้รถเมล์ติดไฟแดงพร้อม ๆ กับผู้โดยสารขึ้นลง จะได้ประหยัดเวลา แต่แนวคิดนี้คิดว่าควรให้รถเมล์ได้ไฟเขียวผ่านแยกนั้น ๆ ไปก่อนแล้วค่อยจอดป้าย เมื่อรับส่งผู้โดยสารเสร็จก็วิ่งต่อไปรอไฟเขียวแยกถัดไปทันที และจะดียิ่งขึ้นถ้ามีระบบตรวจจับรถเมล์ที่แยกถัดไปเพื่อเปิดไฟเขียวให้รถเมล์วิ่งต่อไปโดยไม่ต้องติดไฟแดง
    stop far-side in-lane1ป้ายแบบหยุดเลยแยก เมื่อรถเมล์รับส่งผู้โดยสารเสร็จแล้วสามารถวิ่งไปรอสัญญาณไฟที่แยกถัดไปได้ทันที

ข้อควรระวัง

  • บนถนนเลนเดียว เมื่อรถเมล์หยุดที่ป้ายอาจทำให้รถยนต์ที่ตามมาข้างหลังหยุดบนทางม้าลาย หรือหางแถวล้นออกไปบริเวณสี่แยก
    stop far-side in-lane3stop far-side in-lane4
    แก้ได้โดยใช้สัญญาณไฟจราจรแบบ early red phase คือเปลี่ยนเป็นไฟแดงทันทีหลังจากรถเมล์ผ่านสี่แยกมาแล้ว เพื่อให้รถยนต์ด้านหลังติดไฟแดงที่แยกต่อไป
    ไฟแดงทันทีหลังจากรถเมล์ผ่านแยก

2. ป้ายรถเมล์ที่ตำแหน่งเลยแยก จุดจอดเว้า (far-side, pull-out stop)

ป้ายรถเมล์ที่ตำแหน่งเลยแยก จุดจอดเว้า

ข้อดี

  • แบบจุดจอดเว้าที่อยู่ตำแหน่งเลยแยก ช่วยให้รถเมล์ไม่ต้องหักเลี้ยวกระทันหันเพื่อเข้าป้าย แต่สามารถเริ่มเลี้ยวขณะวิ่งผ่านแยกได้เลย ช่วยลดขนาดความยาวป้ายรถเมล์เมื่อเทียบกับป้ายรถเมล์จุดจอดเว้าที่ตำแหน่งอื่น
  • อาจใช้ป้ายแบบนี้สลับกับแบบจุดจอดบนถนน เพื่อให้รถยนต์มีจังหวะแซงรถเมล์ขณะหยุดได้บ้าง
  • จุดจอดเว้าอาจใช้ร่วมกับจุดจอดบนถนน โดยให้รถเมล์ธรรมดาใช้จุดจอดเว้า ส่วนรถด่วนแซงไปหยุดที่จุดจอดบนถนน
  • อาจใช้ร่วมกับระบบ queue jump เพื่อให้รถเมล์แซงไปหยุดรอสัญญาณไฟหน้ารถยนต์อื่น ๆ ที่แยกถัดไป

ข้อควรระวัง

  • ถนนที่มีปริมาณรถมากจนทำให้รถเมล์กลับเข้าไปร่วมเลนได้ยาก คนขับรถเมล์อาจไม่อยากจอดชิดป้าย แต่อาจจอดคร่อมเลนเพื่อให้ออกขวาได้ง่ายขึ้น
    ปัญหารถเมล์ขอออกขวาได้ยาก รถเมล์อาจไม่จอดชิดป้าย เพื่อจะได้ไม่ต้องขอออกขวา แต่อยู่ในเลนอยู่แล้ววิ่งต่อได้เลย

3. ป้ายรถเมล์ที่ตำแหน่งก่อนแยก จุดจอดบนถนน (near-side, in-lane stop)

ป้ายรถเมล์ที่ตำแหน่งก่อนแยก จุดจอดบนถนน

ข้อดี

  • กรณีที่มีรถเลี้ยวเข้าสู่ถนนที่รถเมล์วิ่งเป็นจำนวนมาก ป้ายรถเมล์ตำแหน่งก่อนแยกช่วยให้รถเลี้ยวเข้าสู่ถนนได้สะดวกเนื่องจากรถเมล์ไม่ได้หยุดบังตรงนั้น
    รถเลี้ยวจำนวนมาก
  • บนถนนสองเลนสวน(มีเพียงข้างละหนึ่งเลน) ป้ายรถเมล์แบบนี้ช่วยป้องกันไม่ให้รถอื่นมาแซงเพื่อหยุดรอไฟแดงหน้ารถเมล์ได้ โดยต้องวางป้ายรถเมล์ให้ใกล้แยกมากเพียงพอ

ข้อควรระวัง

  • วางป้ายรถเมล์ให้ใกล้แยกมากเพียงพอบนถนนสองเลนสวน(มีเพียงข้างละหนึ่งเลน) เพื่อกันไม่ให้รถอื่นมาแซงเพื่อหยุดรอไฟแดงหน้ารถเมล์ได้

4. ป้ายรถเมล์ที่ตำแหน่งก่อนแยก จุดจอดเว้า (near-side, pull-out stop)

ป้ายรถเมล์ที่ตำแหน่งก่อนแยก จุดจอดเว้า

ป้ายรถเมล์แบบนี้เป็นแบบที่ให้ความสำคัญกับการจราจรรถยนต์มากที่สุด ให้ประโยชน์น้อยกับระบบขนส่งมวลชน

ข้อดี

  • สามารถใช้เป็น queue jumpe lane ร่วมกับระบบสัญญาณไฟสำหรับรถเมล์ อาจเหมาะกับแยกที่มีปริมาณการจราจรมาก

ข้อควรระวัง

  • ป้ายรถเมล์อาจถูกรถรอเลี้ยวซ้ายใช้เวลาไม่มีรถเมล์ที่ป้าย ควรวางป้ายรถเมล์ใกล้แยกเพียงพอที่จะกันไม่ให้รถอื่นเข้ามาใช้เพื่อเลี้ยวซ้าย
  • รถเมล์อาจออกขวากลับเข้าสู่เส้นทางวิ่งได้ยาก อาจใช้ร่วมกับการควบคุมสัญญาณไฟแบบ upstream early red phase ช่วยแก้ปัญหานี้

5. ป้ายรถเมล์กลางบล็อก จุดจอดบนถนน (mid-block, in-lane stop)

ป้ายรถเมล์กลางบล็อก จุดจอดบนถนน

ข้อดี

  • ใช้พื้นที่สั้นกว่าแบบถัดไป (ป้ายรถเมล์กลางบล็อก จุดจอดเว้า)

ข้อควรระวัง

  • ควรทำทางข้ามสำหรับคนเดินเท้าหลังป้ายรถเมล์

6. ป้ายรถเมล์กลางบล็อก จุดจอดเว้า (mid-block, pull-out stop)

ป้ายรถเมล์กลางบล็อก จุดจอดเว้า

ข้อดี

  • อาจเหมาะสำหรับจุดเชื่อมต่อ (transfer) ที่มีผู้ใช้บริการเป็นจำนวนมาก

ข้อควรระวัง

  • ออกแบบให้ป้ายรถเมล์ยาวเพียงพอที่รถเมล์จะชิดซ้ายเข้าและเบนออกขวาได้สะดวก